เสวนาใหญ่ “EEC NEXT Chapter” เปิดวิสัยทัศน์พัฒนาเมือง การลงทุน และคนรุ่นใหม่ในระยอง
คณะนักศึกษาในโครงการทูตสถาบัน NBI Ambassador สถาบันการสร้างชาติ จัดงานเสวนาเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ “EEC Exclusive Talk: EEC NEXT Chapter” เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ณ ห้องจันทร์สุดา โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จังหวัดระยอง เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทางอนาคตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC ในบริบทของเมือง การลงทุน และบทบาทของคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในระยะต่อไป

คุณวรรชมล พรประภา ตัวแทนคณะผู้จัดงานและผู้แทนหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ นสช EEC กล่าวว่า การจัดเสวนาในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทั้งการคิด วิเคราะห์ และมองอนาคตบ้านเกิดของตนเอง ไม่ใช่เพียงเวทีให้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่คือการสร้างเวทีให้ NBI Ambassador ได้แสดงศักยภาพในฐานะผู้นำรุ่นใหม่ที่มีจิตสาธารณะ โดยสถาบัน NBI มุ่งหวังให้เกิดเครือข่ายผู้นำที่พร้อมร่วมขับเคลื่อน EEC ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม
การเสวนาได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศสามท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติและนักวิชาการอาวุโสจาก Harvard University ดร จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC และนายกปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ซึ่งร่วมเสนอข้อมูลเชิงลึกและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ในยุคความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
ศาสตราจารย์ ดร เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ได้กล่าวถึงการสร้าง “ระบบนิเวศแห่งโอกาส” ผ่านโมเดล Triple Helix ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเมืองไปพร้อมกับการพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มีความพร้อมต่อโลกอนาคต แนวคิดนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงการพัฒนาเมือง การลงทุน และศักยภาพของกำลังคน
ด้าน ดร จุฬา สุขมานพ ได้สะท้อนภาพรวมทิศทางการพัฒนา EEC ในช่วงห้าปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2570 โดยตั้งเป้าดึงดูดเงินลงทุนรวม 500,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 100,000 ล้านบาทต่อปี ผ่านยุทธศาสตร์หลักในการผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย การบริหารจัดการที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและระบบดิจิทัลสมัยใหม่ การยกระดับทักษะบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดงาน และการสร้างเมืองต้นแบบอัจฉริยะ Smart City เพื่อรองรับทั้งการลงทุนและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่
ขณะที่นายกปิยะ ปิตุเตชะ ได้เน้นถึง “ความพร้อมของคนระยอง” เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเดินคู่ไปกับการพัฒนาเมือง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองแบบสมดุล การสร้างโอกาสให้การลงทุนเข้าถึงคนในพื้นที่อย่างแท้จริง และการเตรียมทักษะคนรุ่นใหม่ให้สามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและตลาดแรงงานในอนาคต
บรรยากาศงานเต็มไปด้วยผู้เข้าร่วมจากทั้งภาคราชการ เอกชน นักศึกษา และภาคประชาสังคม ซึ่งได้รับทั้งข้อมูลเชิงวิชาการและประสบการณ์จริงจากผู้บริหารระดับประเทศ ทำให้การเสวนาครั้งนี้เป็นเวทีที่ช่วยให้ผู้ร่วมงานเข้าใจภาพรวมการพัฒนาพื้นที่ EEC อย่างรอบด้าน และสามารถนำข้อคิดไปต่อยอดในการทำงาน การพัฒนาองค์กร หรือการสร้างประโยชน์แก่พื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
